โรงพยาบาลธรรมชาติ

ไขมันในเลือดสูง  แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัวตับพัง ก็หากระเทียมสดมากิน
     สักวันละ  ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
ปวดหัว  ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม)กินวันละ  ขีดและกินปลาทูอีก
    วันละ  ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ 
เป็นหวัด ไอ จามบ่อย  ให้หมั่นแปรงลิ้นและกิน กระเทียม  หอม พริกให้มากเข้าไว้
ภูมิแพ้  แค่กินฝรั่งวันละ  ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ  กำมือ (สังกะสี)
แพ้ฝุ่นละออง  ไรฝุ่น   หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง  กินต้มยำไก่กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอม
    ซุกไว้ใต้หมอน
.ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ  ขีดเช่นปลาทูปลาสวายปลาแซลม่อน,

    ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง 
กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย  ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ  มื้อ หรือ
     น้ำแครนเบอรี่ ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)
๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย  
๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ  ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น
๑๒.โรคกระเพาะอาหาร  หากล้วยหักมุกปิ้งกินกินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก 
๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย  ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง,
      น้ำขิงชาขิงหรือเต้าฮวย 
๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน  ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ
        แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ  กำมือก็ได้
๑๕.หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอม
      และปลาทูน่า
๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ  ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมมากมะม่วงจิ้มกะปิ 
       และ สับปะรด ซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มากแมงกานีส)
๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ  ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุ
       สังกะสีช่วยสมองได้
๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ขีด 
๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส  ฝรั่ง ส้ม  มะนาว  มะขามป้อม  
      มะละกอ  มะม่วงให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้
      ดีแต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะ ผู้ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ๑- ผล หรือน้ำ
      แอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย 
๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ  กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน
      ผลอโวคาโดเพราะ เหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก 
      ถ้าชอบดื่มชา ให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย
๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมา
      กินและผักขึ้นฉ่าย สดหรือปั่นก็ได้  จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น 
๒๓.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และ กินผักเขียวจัดอย่างคะน้า 
 ร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่ง
 เพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก

Heart Attacks And Hot Water

A very good article which takes two minutes to read. I'm sending
this to persons I care about I hope you do too !
หัวใจวาย กับ การดื่มน้ำเย็น
Heart Attacks And Drinking Warm Water

This is a very good article. Not only about the warm water after your meal,
but about Heart Attacks. The Chinese and Japanese drink hot tea with their meals,
not cold water, maybe it is time we adopt theirdrinking habit while eating.
ชาวจีนและญี่ปุ่นมักจะดื่มน้ำชาร้อนระหว่างมื้ออาหาร ไม่ใช่น้ำเย็น ถึงเวลาที่
คนไทยต้องปรับนิสัยการดื่มน้ำระหว่างรับประทานอาหารเสียที


For those who like to drink cold water, this article is applicable to you.
It is nice to have a cup of cold drink after a meal. However,
the cold water will solidify the oily stuff that you have just consumed.
It will slow down the digestion. Once this 'sludge' reacts with the acid,
it will break down and be absorbed by theintestine faster than the solid
food. It will line the intestine. Very soon, this will turn into fats and lead
to cancer. It is best to drink hot soup or warm water after a meal.
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มน้ำเย็น บทความนี้เหมาะกับคุณ เครื่องดื่มเย็นๆ
ซักแก้วหลังมื้ออาหารฟังดูก็น่าจะดี แต่ในความจริง น้ำเย็นจะทำให้อาหาร
ส่วนที่เป็นไขมันคุณเพิ่งกินเข้าไปเกิดการแข็งตัว ทำให้กระบวนการย่อย
อาหารใช้เวลานานมากขึ้น เมื่อก้อนไขมันนี้ทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตก
ตัวและถูกดูดซึมเข้าสู่ลำไส้เร็วกว่าอาหารแข็ง มันจะไปเคลือบเกาะลำไส้
และแปรสภาพเป็นไขมัน และนำไปสู่โรคมะเร็ง ฉะนั้น จะเป็นการดีที่สุด
ที่จะดื่มน้ำซุปร้อนๆ หรือ น้ำอุ่นๆ หลังมื้ออาหาร
Common Symptoms Of Heart Attack...
A serious note about heart attacks - You! should know that not every heart attack
symptom is going to be the left arm hurting . Be aware of intense pain in the jaw line.
You may never have the first chest pain during the course of a heart attack.
Nausea and intense sweating are also common symptoms. 60% of people
who have a heart attack while they are asleep do not wake up. Pain in the
 jaw can wake you from a sound sleep. Let's be careful and be aware.
The more we know, the better chance we could survive.
อาการของหัวใจวาย ...
เรื่องสำคัญที่ควรทราบเกี่ยวกับโรคหัวใจ
อาการหัวใจวาย ไม่จำเป็นต้องมีอาการเจ็บแขนซ้ายเสมอทุกครั้งไป
ที่ควรระวัง อาการปวดรุนแรงบริเวณกราม เมื่อมีอาการหัวใจวาย อาจจะไม่ได้
เริ่มต้น ด้วยอาการเจ็บหน้าอกเสมอไป อาการทั่วไปมักจะมีอาการคลื่นไส้
และเหงื่อออกอย่างรุนแรง 60% ของผู้ที่มีอาการหัวใจวายในขณะนอนหลับ
จะไม่ตื่น อาการปวดกรามจะช่วยปลุกคุณ จากการนอนหลับได้ ขอให้สังเกต
และระมัดระวัง ยิ่งรู้ตัวเร็วเท่าไรโอกาสรอดก็มากขึ้น
A cardiologist says if everyone who reads this message
sends it to 10 people, you can be sure that we'll save
at least one life. Read this & Send to a friend.
It could save a life... So, please be a true friend
and send this article to all your friends you care about.

"บิดา-มารดา" เป็นพรหมของบุตร ใน พรหมสูตร


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มารดาบิดา มีชื่อเรียก ๓ อย่าง คืออะไรบ้าง ? คือ
1. พรหม
2. บุรพาจารย์
3. อาหุไนย
อัง. ๒๐/พรหมสูตร/๔๗๐/๑๒๖
พุทธาธิบาย
คำว่า พรหม บุรพาจารย์ อาหุไนย เหล่านี้ เป็นคำเรียกมารดาบิดาทั้งหลาย เพราะท่านทั้งหลาย เป็น
ผู้มีอุปการะมาก เป็นผู้ฟูมฟักถนอมชีวิต เลี้ยงดูให้มือเท้าเติบโตให้ดื่มเลือดในอก ประคบประหงมให้เป็นไปโดยต่อเนื่องกัน แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย ก็การที่บุตรทั้งหลายได้เห็นอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์ในโลกนี้เกิดมีขึ้นเพราะได้อาศัยมารดาบิดา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศตระกูลที่บูชามารดาบิดาว่าเป็นตระกูลมีพรหมประจำบ้านโดยมีมารดาบิดาเป็นพรหม จริงอยู่ พระพรหมจะไม่ละภาวนา ๔ อย่าง คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ฉันใด มารดาบิดาทั้งหลายก็ฉันนั้นเหมือนกันจะไม่ละภาวนา ๔ อย่าง
พึงทราบระยะกาลภาวนา 4 อย่าง คือ
1. ในเวลาที่บุตรยังอยู่ในท้อง มารดาบิดาจะเกิดเมตตาจิตอย่างนี้ว่า เมื่อไรหนอ เราจะได้เห็นบุตร
     น้อยปลอดภัย มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบบริบูรณ์
2. แต่เมื่อบุตรน้อยยังเยาว์ นอนแบเบาะ มีเลือดไรไต่ตอมนอนกระสับกระส่าย ส่งเสียงร้องจ้า
    เมื่อมารดาบิดาได้ยินเสียงบุตรส่งเสียงร้องจ้าก็จะเกิดความกรุณาขึ้น
3. แต่ในเวลาที่บุตรวิ่งเล่นไปมาหรือตั้งอยู่ในวัยหนุ่มสาว มารดาบิดามองดูแล้วจะมีจิตอ่อนไหว
   บันเทิงเริงใจเหมือนกับสำลีและปุยนุ่นที่เขายีตั้ง ๑๐๐ ครั้ง หย่อนลงในฟองเนยใส
   จะมีมุทิตาจิตเกิดขึ้น
4. แต่เมื่อบุตรเริ่มมีครอบครัว แยกเรือนออกไป มารดาบิดาจะเกิดความวางใจว่า บัดนี้
    บุตรของเราจะสามารถเป็นอยู่ได้ตามลำพัง ก็จะมีอุเบกขาขึ้น
    แท้จริง มารดาบิดาทั้งหลาย ตั้งแต่บุตรเกิดแล้ว ย่อมให้เล่าเรียน ให้ศึกษาว่า จงนั่งอย่างนี้
   จงยืนอย่างนี้ จงเดินอย่างนี้ จงนอนอย่างนี้ จงเคี้ยวอย่างนี้ จงกินอย่างนี้ คนนี้ควรเรียกพ่อ คนนี้ควร
   เรียกแม่ คนนี้ควรเรียกพี่ คนนี้ควรเรียกน้อง ควรทำสิ่งนี้ ไม่ควรทำสิ่งนี้ ควรเข้าไปหาคนชื่อโน้น ไม่ควรเข้าไปหาคนชื่อโน้น ในเวลาต่อมา อาจารย์เหล่าอื่นจึงให้ศิลปะเรื่องช้าง เรื่องม้า เรื่องรถ เรื่องธนู และการนับด้วยนิ้วมือเป็นต้น อาจารย์เหล่าอื่นให้สรณะ ให้ตั้งอยู่ในศีล ให้บรรพชา ให้เรียนพุทธพจน์ ให้อุปสมบท ให้บรรลุโสดาปัตติมรรคเป็นต้น ดังนั้น อาจารย์เหล่านั้นทั้งหมดจึงชื่อว่าเป็นอาจารย์ในภายหลัง (ปัจฉาอาจารย์ ) ส่วนมารดาบิดาเป็นอาจารย์ก่อนกว่าทุกอาจารย์ (บุรพาจารย์)
มารดาบิดาผู้เอ็นดูบุตรจึงเป็นผู้เหมาะสมควรจะได้รับข้าวน้ำเป็นต้นที่บุตรจัดหามาเพื่อต้อนรับ ดังนั้น บุตรผู้มีปัญญาพึงนอบน้อมสักการะท่านด้วยข้าวยาคูภัตรและของควรเคี้ยว น้ำปานะ ๘ อย่าง ผ้าสำหรับนุ่งและผ้าสำหรับห่ม ที่นอนเครื่องรองรับคือเตียงและตั่ง เครื่องอบ เครื่องลูบไล้สำหรับกำจัดกลิ่นเหม็นทำให้มีกลิ่นหอม การสนานกายด้วยการให้อาบรดตัวด้วยน้ำอุ่นในหน้าหนาวและน้ำเย็นในหน้าร้อน การล้างเท้าด้วยน้ำอุ่นและน้ำเย็น และการทาด้วยน้ำมัน บัณฑิตทั้งหลายเห็นการปรนนิบัติมารดาบิดา แล้วย่อมสรรเสริญเขาในโลกนี้ เพราะมีการปรนนิบัติบำรุงมารดาบิดานั้นเป็นเหตุ เขาละโลกนี้ไปสู่ปรโลกแล้วสถิตอยู่ในสวรรค์ ย่อมร่าเริงบันเทิงใจด้วยทิพย์สมบัติแล ฯ

นิทานชาดก ยอดหญิงกตัญญู

สาเหตุที่พระพุทธเจ้าตรัสชาดก.สมัยพุทธกาล ณ แคว้นโกศล มีโจรกลุ่มหนึ่งปล้น
สะดมชาวบ้านแล้วหนีไปชาวบ้านจึงพากันหาโจรจนมาถึงหมู่บ้านชายแดนแห่ง
หนึ่งพบชาย ๓ คนกำลังไถนาอยู่ จึงคิดว่าเป็นโจรปลอมเป็นชาวนา จึงจับกุมทุบ
ตีแล้วคุมตัวมาถวายพระเจ้าโกศล ต่อมา ได้มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง เดินร้อง
ให้รำพันรอบ ๆ พระราชวังขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม ความทราบถึง
พระเจ้าโกศลพระองค์ มีรับสั่งให้นำผ้าสาฎกไปมอบให้แก่นาง แต่นางกลับยิ่งร้อง
ไห้หนักขึ้นและกล่าว “ขอพระราชทานเครื่องนุ่งห่ม คือสามี” ราชบุรุษจึงนำนางไป
เข้าเฝ้าพระเจ้าโกศลได้ทรงซักถามนางจึงว่า “สามีชื่อว่าเครื่องนุ่งห่มของหญิง
เมื่อไม่มีสามีแม้จะนุ่งห่มผ้าราคาตั้ง ๑,๐๐๐ กษาปณ์ ก็ชื่อว่าหญิงเปลือยอยู่นั่นเอง
แม่น้ำไม่มีน้ำชื่อว่าเปลือยแว่นแคว้นไม่มีราชา ชื่อว่าเปลือย หญิงปราศจากสามี
ถึงจะมีพี่น้องตั้ง ๑๐ คน ก็ชื่อว่าเปลือย” …..พระเจ้าโกศลเกิดเลื่อมใสจึงตรัสคืน
ชายหนึ่งคนให้ นางจึงขอ พี่ชายและให้เหตุผลว่า ถ้ายังมีชีวิตย่อมหาสามีใหม่และ
มีบุตรใหม่ได้ แต่บิดามารดาได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ไม่อาจจะมีพี่ชายได้อีก
พระเจ้าโกศลเห็นความฉลาดของนางจึงโปรดไว้ชีวิตชายทั้งสาม .เรื่องดังกล่าว
เลื่องลือแม้กระทั่งในหมู่ภิกษุ ความทราบถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรง
ระลึกชาติหนหลังด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ แล้วตรัสเล่า อุจฉังคชาดก:
ข้อคิดจากชาดก
๑. ผู้ที่มีหน้าที่ปราบปราม นำคนผิดมาลงโทษ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
     อย่าจับ คนด้วยเพียงการคาดคะเน เพราะการลงโทษคนบริสุทธิ์เป็นบาปอย่าง
     ยิ่ง การปล่อย  คนผิดไป ๑๐๐ คน ยังดีกว่าการลงโทษคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว
๒. คนเราควรหาโอกาส “ตอบแทนคุณ” ของผู้ที่มีพระคุณต่อเราอยู่เสมอ
๓. ผู้ที่รู้บุญคุณและตอบแทนบุญคุณ ย่อมไม่ถึงความตกต่ำอย่างแน่นอน
๔. ผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในหลักธรรม แม้ความตายมาถึงตัว ก็มีสติตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว
     สามารถเผชิญความตายโดยอาจหาญ ย่อมเป็นผู้ที่ “ประสบสุขได้แม้
     ในยามทุกข์”
๕. พี่น้องกันนั้น “ฆ่ากันไม่ตาย ขายกันไม่หมด” แม้จะมีเรื่องผิดใจกันอย่างไร
      แต่เมื่อมีเรื่องเดือดร้อน ย่อมพึ่งพากันได้

7 วิธีคิดอย่างคนเก่ง

" 7 Thinking method to be genius "

การเป็นคนเก่ง ไม่ใช่ความโชคดีของพันธุกรรมหรอกนะ อยู่ที่การฝีกขัดเกลาสมอง
และหัวใจ ของคุณต่างหาก แล้วคุณจะมีความปราดเปรื่องในแบบฉบับของคุณเป็น
คนเก่ง ที่สามารถจัดการกับชีวิตของตนเองได้อย่างลงตัว
1. คิดในทางบวก
มองโลกในแง่ดี และทำทุกสิ่งอย่างเต็มกำลัง ด้วยรอยยิ้มและความเบิกบาน ทำตัว
ให้สดชื่น มีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์
จะช่วยให้คุณสามารถ ที่จะจัดการกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาได้อย่างอยู่มือ
2 มีศรัทธาในตัวเอง
ถ้าแม้แต่ตัวคุณเอง ยังไม่ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วจะมีมนุษย์หน้าไหนล่ะ
จะเชื่อในความเก่งของคุณ อยากให้ใครๆ เขาชื่นชอบและทึ่งในตัวคุณ คุณก็ต้อง
มั่นใจตัวเองก่อน
3. ขอท้าคว้าฝัน
ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังมากเท่ากับความตั้งใจจริง และทุ่มสุดตัวหรอกนะ ความกระหาย
อันแรงกล้า ที่จะพาตัวเองไปสู่จุดหมาย นั่นแหละเป็น แรงผลักดันที่จะทำให้
คุณสานฝันสู่ความจริงได้
4. ค้นหาบุคคลต้นแบบ
ใครก็ได้ที่คุณชื่นชม เพื่อเป็นมาตรฐานที่ดีในการดำเนินรอยตาม
ศึกษาแนวคิด วิธีการทำงาน จุดเด่นในตัวเขา เผื่อว่าเราจะได้ไอเดียแจ๋ว ๆ
มาปรับใช้ให้ชีวิตก้าวโลดสู่ความสำเร็จกับเขามั่ง
5. เริ่มต้นงานใหม่ทุกวันด้วยรอยยิ้มสดใส
คนที่มีรอยยิ้ม ระบายไว้บนใบหน้า เสมือนประตูที่เปิดกว้าง ให้ใครๆ อยากเข้ามาคบ
หาด้วยการเจรจาติดต่องาน ก็มักจะลงเอยด้วยความสำเร็จ มากกว่าคนที่หน้าตา
แบกโลกนะ นอกจากนี้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ยังสร้างความเบิกบาน และคลายทุกข์
แถมยังเป็น ยาอายุวัฒนะชั้นอ๋อง ที่ทำให้เราดูเป็นวัยสะรุ่นตลอดกาล รู้อย่างนี้แล้ว..
หัดติดรอยยิ้มไว้ ที่มุมปากกันเป็นประจำนะ
6. เรียนรู้จากความผิดพลาด
ก็สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง จะเป็นอะไรเชียวถ้าเราจะทำอะไร แล้วจะยัง
ไม่สำเร็จอย่างที่หวังไว้ เพียงแต่ขอให้ทำเต็มที่ และเปิดใจให้กว้าง ยอมรับความ
จริงหันมาทบทวน ดูว่ามีขั้นตอนไหนที่ผิดพลาดไป.เพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม
7. ทะนุถนอมมิตรสัมพันธ์เก่าๆ
คงไม่มีใครที่จะอยู่อย่างมีความสุข โดยปราศจากเพื่อนหรือมิตรที่รู้ใจหรอกนะ
แม้ว่า ในชีวิตแต่ละวันของคุณจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม คุณควรจะมีเวลาให้กับเพื่อน
ซี้ ที่รู้จักมักจี๋กัน มานานซะบ้าง แวะไปหากัน เมื่อโอกาสอำนวย ชวนกันออกมา
ทานข้าวในช่วงวันหยุด ส่งการ์ดปีใหม่ หรือร่อนการ์ดวันเกิดไปให้ เผื่อในยามที่
คุณเปล่าเปลี่ยวหงอยเหงา เศร้าทุกข์ใจก็ยังมีเพื่อนแสนซื้ ไว้พื่งพาและให้กำลังใจ
กันได้นะ การเป็นคนเก่ง ไม่ใช่ความ โชคดีของพันธุกรรมหรอกนะ อยู่ที่การฝีกขัด
เกลาสมองและหัวใจของคุณต่างหาก แล้วคุณจะมีความปราดเปรื่องในแบบฉบับ
ของคุณเป็นคนเก่ง ที่สามารถจัดการกับชีวิต ของตนเองได้อย่างลงตัว