เห่.. ไว้อาลัย ประเทศไทย

เสียงชาวพุทธ หลุดหาย กลายเป็นว่าง   ทุกทิศทาง มืดมน จนหมดหวัง
ประเทศไทย ใกล้จบเห่ ใกล้เพพัง         ถูกไอบั้ง กัดกิน สิ้นชาติไทย
ประเทศไทย สิ้นเลือดเนื้อ ชาติเชื้อแล้ว  ไม่มีแนว ทางอื่น ฟื้นคืนได้
อิสลาม หยามเหยียด เกลียดคนไทย      จึงเปลี่ยนไป ให้เป็นรัฐ ปัตตานี
ออกกฏหมาย หลายฉบับ รับสมอ้าง      ล้มทุกอย่าง ที่เป็นไทย ในทุกที่
ศิลปะ วัฒนธรรม ถูกย่ำยี                   จนไม่มี เค้าไทย ให้รำลึก
ยิ้มสยาม งามนัก จักแปรผัน               ปิดหน้ากั้น ความเป็นไทย ไม่รู้สึก
อิสลาม หยามหมิ่น เกาะกินลึก           ยิ่งกว่าศึก ไทย-พม่า ฆ่าไม่ตาย
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อ                ชาติเชื้ออื่น สูญสิ้นผืน ดินไทย น่าใจหาย
แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง                ต้องวอดวาย เพราะแพ้พ่าย มัสยิด อิสลาม
หมื่น วัดวา อาราม อันงามพริ้ง           ต้องถูกทิ้ง ร้างรก ปกดงหนาม
แสนพระสงฆ์ ทรงสิกขา ทุกอาราม     ถูกคุกคาม หยามหมิ่น สิ้นเผ่าพันธุ์
องค์พ่อหลวง ของปวงไทย ก็ไม่พ้น    ต้องถูกปล้น ล้มล้าง อ้างสวรรค์
ไม่มีใคร ใหญ่เท่า พระเจ้ามัน            สิบนิ้วนั้น ไหว้ใคร ไม่ได้เลย
ล้มล้างชาติ ศาสน์กษัตริย์ รัฐไทยสิ้น  ยึดแผ่นดิน ขวานทอง ของไทยเฉย
เปลี่ยนระบบ การปกครอง ของไทยเลย พี่น้องเอ๋ย เชิญขยับ มารับฟัง
เอ้าเห่.โอ้อาลัย ใจหาย .ไทยตายแล้ว   สิ้นหน่อแนว อนุชน คนรุ่นหลัง
ภาษาไทย จะไม่มี ที่ให้ฟัง              เพลงชาติดัง ใช่สำเนียง เสียงชาติไทย
ศาสนา ก็หาใช่ ชาวไทยพุทธ          เพราะถูกขุด ล้างผลาญ ต้านไม่ไหว
องค์กษัตริย์ ใช่พ่อหลวง ปวงชนไทย  แต่เปลี่ยนไป เป็นหน้าแขก ดูแปลกตา
เมื่อสิ้นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์   ชื่อของรัฐ ก็เปลี่ยนไป ใครกล้าว่า
ปัตตานี อี่อี๋อู อู้อู๋อา                      เป็นภาษา ของแขก ที่แปลกปลอม.
สงสารชาติ คลาดเคลื่อน เสียงเอื้อนขาด สงสารศาสน์ ขาดวิ่น หมดกลิ่นหอม
สงสารพ่อ หลวงไทย ใจตรมตรอม      ทุกอย่างพร้อม สูญสลาย ..ไทยตายแล้ว ฯ


วิญญาณเสรี

จะอยู่อย่างไรเมื่อคนไทยไร้ที่พึ่ง

จะอยู่อย่างไรเมื่อคนไทยไร้ที่พึ่ง

เมื่อคนไทย ไร้ซึ่ง ที่พึ่งพัก             ไม่มีหลัก ยึดเหนี่ยว เกี่ยวใจไว้
จึงวังเวง เคว้งคว้าง ไร้ทางไป         หาสิ่งใด ค้ำชู ดูไม่มี
จะพึ่งรัฐ นั่นเล่า ก็เบาโหวง            นาวาโคลง เคลงไป ไม่เข้าที่
พึ่งตำรวจ พึ่งทหาร ยานเต็มที หันพึ่งผีก็ถูกหลอกเหมือนหมอกมัว
พึ่งเครื่องราง ของขลัง ยิ่งบังจิต       อิทธิฤทธิ มีน้อย ไม่ค่อยทั่ว
จตุคาม รามเทพ ก็ไม่ชัวร์          เพราะความกลัว บังปิด ทุกทิศทาง
พึ่งหน้าที่ การงาน ก็ซ่านเสียว เผลอแป๊ปเดียว ไล่ออก บอกเลิกจ้าง
พึ่งหมอดู หมอเดา พอเหงาจาง  ก็เคว้งคว้าง ไร้หลัก หนักกว่าเดิม
พึ่งพระสงฆ์ องคเจ้า ข่าวลงปั่น     ศรัทธาสั่น ไม่คึก ไม่ฮึกเหิม
พึ่งอะไร ใจก็ ท้อเหมือนเดิม         ถ้าไม่เริ่ม พึ่งธรรม พระสัมมา
เมตตาธรรม ค้ำจุน หนุนโลกไว้       ต้องมีใจ ยึดธรรม คำที่ว่า
โลโกปัตถัมภิกา เมตตา                พอเยียวยา ใจก่อน ในตอนนี้
ยึดธรรมอุ้ม คุ้มครองโลกสองอย่าง    หิริ วาง เป็นหลัก ปักเต็มที่
โอตตัปปะ ตามชิด ติดทันที   ปัญญามี ไตร่ตรอง กรองเหตุการณ์
รักษาศีล ๕ ข้อ พอใจอุ่น            ซึ่งเป็นคุณ มากค่า มหาศาล
เป็นกำแพง แกร่งกั้น กันหมู่มาร    ที่คืบคลาน มายึดใจ ให้รวนเร
เพียงเท่านี้ ที่พึ่ง ซึ่งไม่หลง       และมั่นคง เป็นหลัก ไม่หักเห
ก็ยึดใจ ให้รื่นรมย์ สมคะเน      ไม่ให้เฉ ไปพึ่งสิ่ง ไม่จริงจัง
อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ          องค์พุทโธ บอกไว้ ทำให้ขลัง
พึ่งตนเอง พึ่งได้ ไม่น่าชัง       ไม่ต้องหวัง พึ่งใคร ใจจะลอย
เห็นคนไทย ไร้ซึ่ง ที่พึ่งพัก      ไม่มีหลัก ยึดแท้ แม้แต่น้อย
จึงบอกทาง วางใจ ไม่สำออย   เป็นหลักคอย ให้เข้าถึง..ที่พึ่งใจ ฯ
รักและห่วงใยในทุกชีวิต
วิญญาณเสรี
19 มีนาคม 2007
On the way from Tennessee to Michigan

หมาขี้เรื้อน เปลี่ยนใจคน

ทำไมถึงทำให้คน ใจร้าย เปลี่ยนแปลงตัวเอง....เพราะอะไร?
เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชิตแกเป็นคนชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับ แม่แกบอกมันบาปนะลูก (ไม่สนโว้ย)
     เมื่อ ราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป ครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งครับมันมักวิ่งไปหาของกินแถวๆบ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด พี่แกกินหมาอยู่บ่อยๆแต่ กรณีหมาขี้เรื้อนแกบอก "xxxกินไม่ลงว่ะ"
     แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง (สงสัยมีของ) มันไปหาของกินทีบางทีก็ได้บางทีก็ไม่ได้ คราวนั้นเนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนวิ่งหลุนๆไป แกเดือดทันทีครับวิ่งตามไป คราวนี้ทันครับเพราะหมาขี้เรื้อนวิ่งช้ามาก แกทุบไปทีเดียวหมานั่นล้มลงชักทันที (แกบอกว่าหากตีตรงจุดแค่ไม้บรรทัดก็ตาย) แกทิ้งไว้ตรงนั้นไม่อยากจับแต่จะทำกินตรงนั้น จึงกลับบ้านไปเตรียมของ (แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน) ให้ผมเฝ้าไว้ ผม ก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู (ในใจอยากให้มันรีบไปจะได้ไม่ตาย) มันไปจริงครับหายวับไป พี่ชิตแกโกรธมากคงอยากเตะผมเต็มแก่ แต่ลุงผม แกเป็นนักเลงใหญ่และเป็นคนสอนวิธีฆ่าหมาให้ ก็ต้องวิ่งตามอย่างเดียวพร้อมบ่น "ทำไมมันไม่ตายวะ"  พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกตามทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็น ..
    หมา ขี้เรื้อนกำลังจะตายมันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังหย่านมบางตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก (เห็นกับตา) ที่มันยังไม่ยอมตายเพราะต้องกลับไปให้นมลูก แม้น้ำนมแห้งกรัง เอาอาหารไปให้ลูกมัน เรียกลูกๆเพื่อให้นม ให้อาหาร เป็นครั้งสุดท้าย แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุด มันมองผมกับพี่ชิตอย่างขอร้อง ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ไม่อยากเชื่อนั่นคือน้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย
     พี่ชิตไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดูแม่หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูกแกไม่พูดอะไรทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอสายตาอ่อนโยนลง ลูกหมาตัวหนึ่งวิ่งไปหาแกกระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า "ขอโทษ" พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย เราช่วยกันฝังแม่หมา แกรับเลี้ยงหมานั่นไว้ ทั้ง5ตัวตั้งแต่นั้นแกกลายเป็นคนใจดีไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีกแกบอก "มันอาจมีลูกรออยู่ก็ใด้" เมื่อ 12 สิงหา 2 ปีที่แล้ว แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆที่ไม่เคยทำ พูดกับแม่ว่า "แม่ตอนผมอายุ16 แม่สอนผมยังไงนะสอนอีกหนใด้ไหมครับ" แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก ไม่อยากเชื่อแม่หมาขี้เรื้อนตายไป1ตัว กลับทำให้คนใจร้ายอย่างแกเปลี่ยนไปขนาดนี้

รักกับหลง แตกต่างกันอย่างไร

ความรัก ค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ความหลง เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความรัก อดทนต่อกันและกันเสมอ
ความหลง กระทำไปตามอารมณ์
ความรัก ทำสิ่งดีๆให้กัน
ความหลง ทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง
ความรัก ไม่คิดถึงตัวเองฝ่ายเดียว
ความหลง คิดถึงแต่ตัวเอง เรียกร้องแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ
ความรัก ชื่นชมสิ่งดี ไม่ยอมรับสิ่งผิด
ความหลง หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง แก้ตัว
ความรัก ปกป้องกันและกัน
ความหลง ปกป้องตัวเอง ไม่แคร์ว่าใครจะเจ็บ
ความรัก ไว้ใจซึ่งกันและกัน
ความหลง หวาดระแวง จับผิด ขี้สงสัย
ความรัก ให้อภัย
ความหลง แค้นนี้ต้องชำระ
ความรัก ทนต่อทุกอย่าง
ความหลง ถอยหนียามลำบาก
ความรัก ให้โดยไม่มีการเลิกรา
ความหลง หยุดเมื่อไม่ได้รับการปรนเปรอ
ความรัก เป็นอมตะ คงทนถาวร
ความหลง ไม่มั่นคง อยู่ได้ไม่นาน
ความรัก ซื่อสัตย์ต่อกัน
ความหลง หลอกลวง เชื่อถือไม่ได้
ความรัก ไม่ฉุนเฉียวง่าย
ความหลง ด่าว่าให้เจ็บช้ำ
ความรัก ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย
ความหลง ไม่ให้เกียรติ ฉันต้องสำคัญที่สุด เป็นรองไม่ได้
ความรัก มีความหวังอยู่เสมอ
ความหลง คุณพลาดแล้วหมดโอกาสแก้ตัว
ความรักจะช่วยส่งเสริมคนทั้งคู่ให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเช่น การเรียนดี ประพฤติดี
ความหลงไม่สนใจอะไร มุ่งแต่จะอยู่ด้วยกัน สุดท้ายก็ลงเอยเรื่อง sex
ความรักจะเตือนสติถ้าอีกฝ่ายทำสิ่งไม่สมควร และมีความยับยั้งชั่งใจ ไม่ชิงสุกก่อนห่าม
ความหลงไม่มีการเตือนสติกัน แต่จะมองสิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูก เช่นแฟนกินเหล้า สูบบุหรี่ เสพยา หนีเรียนก็ไม่ว่าเพราะหลงจนไม่อยากขัดใจ
ความรักจะทำดีต่อกัน รักกันเสมอต้นเสมอปลาย
ความหลงแรก ๆ รักจนไปลืมหูลืมตา ต่อมาอีกไม่นานก็เริ่มหน่ายตีตัวออกห่างไปหาคนอื่นต่อ
รัก หลง ชอบแตกต่างกันอย่างไร 3 อย่างนี้
เป็นพื้นฐาน ของคำๆเดียว ก็คือรัก การที่เราจะรักใครสักคน มันเริ่มมาจาก หลง ก่อน เวลาเราหลงใครสักคนเราก็อยากที่จะใกล้ชิดเขาให้มากที่สุด ปกติไม่เคยคุยโทรศัพน์กับใครนานก็จะคุยมากขึ้น เวลาจะไปไหนกับคนที่เราหลง ก็ต้องแต่งตัวให้ดี ระวังคำพูดมากขึ้น อาการหลงเป็นอาการชั่ววูบของผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เช่น ตอนที่เราหลง ผู้หญิงจะทำอะไรก็เห็นดีเห็นงานไปด้วยเอาง่ายแม้แต่ดอกหญ้ามันยังว่าสวยเลย แต่ถ้าเราผ่านอาการนี้มาได้ ก็จะมาเป็นชอบ ชอบกับหลงแตกต่างกันนะ อาการชอบจะเป็นอาการที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าอาการหลงจะรู้จักเข้าใจกันและกัน มากขึ้น เมื่อเราชอบแล้วก็จะพัฒนาเป็นรัก แต่กว่าจะผ่านอาการหลง ชอบ มาถึง รักได้ ก็คงลำบากน่าดูเลยนะ

บทกลอนของเด็กอัฟริกัน

บท กลอนของเด็กอัฟริกัน ผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม จาก UN
Nominated by UN as the best Poem of 2006
Written by an African Kid

When I born, I black : เมื่อผมเกิด ผมผิวดำ
When I grow up, I black : เมื่อผมโตขึ้น ผมก็ยังผิวดำอยู่
When I go in Sun, I black : เมื่อผมอยู่ ใต้แสงแดด ผมก็คงยังผิวดำ
When I scared, I black : เมื่อผมกลัว ผมก็ผิวดำ
When I sick, I black : เมื่อผมป่วย ผมก็ยังผิวดำ
And when I die, I still black : และ เมื่อผมตาย ผมก็ยังคงผิวดำ

And you white fellow: และ คุณ...เพื่อนมนุษย์ผิวขาว
When you born, you pink: เมื่อแรกเกิด คุณมีผิวสีชมพู
When you grow up, you white: เมื่อคุณ โตขึ้น คุณมีผิวสีขาว
When you go in sun, you red: เมื่อคุณ อยู่ใต้แสงแดด คุณมีผิวสีแดง
When you cold, you blue: เมื่อคุณหนาว คุณมีผิวสีน้ำเงิน
When you scared, you yellow: เมื่อคุณกลัว คุณมีผิวสีเหลือง
When you sick, you green: เมื่อคุณป่วย คุณมีผิวสีเขียว
And when you die, you grey: เมื่อคุณตาย คุณมีผิวสีเทา
And you calling me colored?: และทำไมคุณเรียกผมว่า คนผิวสี ?